วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การติดตั้ง PHP

          PHP นั้นเป็นภาษาสำหรับใช้ในการเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ สามารถเขียนได้หลากหลายโปรแกรมเช่นเดียวกับภาษาทั่วไป อาจมีข้อสงสัยว่า ต่างจาก HTML อย่างไร คำตอบคือ HTML นั้นเป็นภาษาที่ใช้ในการจัดรูปแบบของเว็บไซต์ จัดตำแหน่งรูป จัดรูปแบบตัวอักษร หรือใส่สีสันให้กับ เว็บไซต์ของเรา แต่ PHP นั้นเป็นส่วนที่ใช้ในการคำนวน ประมวลผล เก็บค่า และทำตามคำสั่งต่างๆ อย่างเช่น รับค่าจากแบบ form ที่เราทำ รับค่าจากช่องคำตอบของเว็บบอร์ดและเก็บไว้เพื่อนำมาแสดงผลต่อไป แม้แต่กระทั่งใช้ในการเขียน

หลังจากดาวน์โหลดไฟล์มาแล้ว  ให้ทำการ Unzip ออกมา  เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์เป็น PHP



นำเอา Folder PHP ที่ได้ตามข้างต้นไปไว้ที่ C:\WWWServer



เปิดเข้าไปใน Folder PHP  หาไฟล์ php.ini-dist  แล้วก็อปปี้ไปไว้ที่ C:\WINDOWS



Rename ไฟล์ php.ini-dist ให้เป็น php.ini



เปิดไฟล์ php.ini ขึ้นมา  ค้นบรรทัดที่เขียนว่า output_buffering = Off  แล้วแก้ไขเป็น output_buffering = 4096  เพื่อเปิดใช้งาน Output Buffer



ค้นหาบรรทัดที่เขียนว่า register_globals = Off  แก้ไขเป็น register_globals = On  เพื่อรองรับการทำงานในการเขียน Code ที่ใช้ตัวแปร Global  เช่น PHP-Nuke ซึ่งจำเป็นต้องใช้  ไม่เช่นนั้นจะทำงานไม่ได้เลย



ค้นหาบรรทัดที่เขียนว่า default_charset = "iso-8859-1"  แก้ไขเป็น default_charset = "tis-620"  เพื่อตั้งค่า Default ของ PHP ให้เป็นภาษาไทย



ค้นหาบรรทัดที่เขียนว่า doc_root =  แก้ไขเป็น doc_root = C:\WWWRoot  และบรรทัดที่เขียนว่า extension_dir = "./"  แก้ไขเป็น extension_dir = C:\WWWServer\PHP\extensions\  เป็นการระบุ Directory ที่เก็บไฟล์พวก Extensions ต่างๆที่ช่วยเพิ่มความสามารถของ PHP



ส่วนตรงนี้จะใช้ Extension ตัวไหน  ก็ให้เอาเครื่องหมาย ; ข้างหน้าตัวนั้นออก  อ่านคู่มือเอาเองนะว่าตัวไหนใช้ทำอะไร  ส่วนตรงนี้
จะใช้ GD  ก็เลยเอาเครื่องหมาย ; ข้างหน้า extension=php_gd2.dll ออก  เสร็จแล้วทำการบันทึกไฟล์แล้วปิดออกไป



เปิดไฟล์ httpd.conf ขึ้นมาปรับแต่งให้รู้จัก PHP  ซึ่งการติดตั้งมีอยู่ 2 แบบ  คือ CGI และ Apache  แต่ในที่นี้ผมจะใช้การติดตั้งแบบ Apache  เพราะการใช้งานร่วมกับ Apache  ประสิทธิภาพการทำงานจะดีกว่าแบบ CGI จ ะไม่ขอกล่าวถึงการติดตั้งแบบ CGI นะครับ

ให้เพิ่มคำสั่งเหล่านี้ลงไปตามรูป
LoadFile "C:/WWWServer/PHP/php4ts.dll"
LoadModule php4_module C:/WWWServer/PHP/sapi/php4apache2.dll
ScriptAlias /php/ "C:/PHP/"
AddType application/x-httpd-php .php
AddType application/x-httpd-php .php3




ค้นหาบรรทัดที่เขียนว่า DirectoryIndex index.html index.html.var  แล้วเพิ่ม
DirectoryIndex index.php
DirectoryIndex index.php3

ต่อท้าย  เพื่อกำหนดให้ไฟล์ index.php กับ index.php3 เป็นค่า Default  หรือจะเพิ่มต่อท้ายแบบนี้เลยก็ได้
DirectoryIndex index.html index.html.var index.php index.php3



ต่อไปก็กำหนด Path ไปหาไฟล์ *.dll ของ PHP มาใช้งาน  ทำได้ 2 วิธีครับ

วิธีแรกคือ
 ให้ทำการ Copy ไฟล์ *.dll ทั้งหมดที่อยู่ใน C:\WWWServer\PHP\dlls\ ไปไว้ที่ C:\WINDOWS\System32\
ส่วนวิธีที่สอง (วิธีที่ผมใช้) คือการกำหนด Path เองให้ไปที่ Control Panel แล้วคลิกๆที่ไอคอน System



เลือกแทป Advanced และ Environment Variables ตามลำดับ



ต่อไปที่ช่อง System Variables  เลือก Path  แล้วคลิก Edit



และให้ใส่ค่านี้ลงไปต่อท้าย ;C:\WWWServer\PHP\dlls  คลิก OK และ OK ออกไป



จากนั้นให้ทดลองเขียน Code PHP ขึ้นมาตามนี้ <?php phpinfo(); ?> เซฟเป็นชื่อ phpinfo.php



นำไฟล์ที่ได้เอาไปไว้ที่ C:\WWWRoot\  จากนั้นให้ปิดทุกโปรแกรม  แล้วรีบูตเครื่องใหม่



หลังจากบูตเข้ามาที่วินโดวส์เสร็จเรียบร้อยแล้ว  ให้เปิด IE ขึ้นมา  ที่ช่อง Address ให้พิมพ์ http://localhost/phpinfo.php  กด Enter  ถ้าได้หน้าตาเว็บตามรูปข้างล่าง  ก็แสดงว่า Config ผ่านเรียบร้อยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น